ประเพณีอาซูรอ |
www.oknation.net
|
ความหมาย คำจำกัดความ คำนิยาม
คำว่า อาซูรอ มีรากศัพท์มาจากภาษาอาหรับ แปลว่า การผสมหรือรวมกัน หมายถึงการนำสิ่งต่างๆหลายอย่ามารวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ความเป็นมา
ความเป็นมาของการกวนข้าวอาซูรอ หรือกวนขนมอาซูรอสืบเนื่องจากได้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในสมัยนบีนุฮ (อล) ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน ไร่นาของประชาชนและสาวกของนบีนุฮ (อล) และคนทั่วไปอดอาหาร นบีนุฮ (อล) จึงประกาศให้ผู้ที่มีสิ่งของเหลือพอจะรับประทานได้ ให้เอามากองรวมกัน และให้เอาของเหล่านั้นมากวนเข้าด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนได้รับประทานอาหารกันโดยทั่วหน้า
ความสำคัญ
การกวนข้าวอาซูรอ (ขนมอาซูรอ) เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คำว่า อาซูรอ เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า การผสม การรวมกัน คือการนำสิ่งของที่รับประทานได้หลายสิ่งหลายอย่างมากวนรวมกัน มีทั้งชนิดคาวและหวาน การกวนข้าวอาซูรอจะใช้คนในหมู่บ้านมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อความสามัคคีและสร้างความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันมีผลต่อการอยู่ร่วมกันของสังคมอย่างมีความสุข ก่อนจะแจกจ่ายให้รับประทานกัน เจ้าภาพจะเชิญบุคคลที่นับถือของชุมชนขึ้นมากล่าวขอพร (ดูอา) ก่อน จึงจะแจกให้คนทั่วไปรับประทานกัน
พิธีกรรม
พิธีกรรม
การกวนข้าวอาซูรอเริ่มด้วยการที่เจ้าภาพประกาศเชิญชวนนัดหมายให้ชาวบ้านทราบว่าจะมีการกวนข้าวอาซูรอกันที่ไหน เมื่อใด เมื่อถึงกำหนดนัดหมายชาวบ้านก็จะนำอาหารดิบ เช่น เผือกมัน ฟักทอง มะละกอ กล้วย ข้าวสาร ถั่ว เป็นต้น มารวมเข้าด้วยกันแล้วปอกหั่น ตัดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นนำเครื่องปรุง เช่น ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม ผักชี ยี่หร่า เกลือ น้ำตาล กะทิ เป็นต้น มาเป็นเครื่องผสมโดยหั่นตัดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นเดียวกัน สำหรับกะทิจะคั้นเฉพาะน้ำมาผสม
วิธีกวน นำกะทะใบใหญ่ตั้งไฟ มีไม้พายสำหรับคนขนมอาซูรอ หลังจากตั้งกะทะบนเตา คั้นน้ำกะทิใส่ลงไป ตำหรือบดเครื่องแกงหยาบ ๆ ใส่ลงในน้ำกะทิ เมื่อกะทิเดือดใส่อาหารดิบต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว คนด้วยไม้พายจนกระทั่งทุกอย่างเปื่อยยุ่ย กวนต่อไปจนเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อแห้งได้ที่แล้วตักใส่ถาด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ หรืออาจโรยหน้ากุ้ง เนื้อสมัน ปลาสมัน ผักชี หอมหั่นฝอย แล้วแต่รสนิยมของท้องถิ่น แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ แจกจ่ายกันรับประทาน
วิธีกวน นำกะทะใบใหญ่ตั้งไฟ มีไม้พายสำหรับคนขนมอาซูรอ หลังจากตั้งกะทะบนเตา คั้นน้ำกะทิใส่ลงไป ตำหรือบดเครื่องแกงหยาบ ๆ ใส่ลงในน้ำกะทิ เมื่อกะทิเดือดใส่อาหารดิบต่าง ๆ ที่กล่าวมาแล้ว คนด้วยไม้พายจนกระทั่งทุกอย่างเปื่อยยุ่ย กวนต่อไปจนเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อแห้งได้ที่แล้วตักใส่ถาด โรยหน้าด้วยไข่เจียวหั่นบาง ๆ หรืออาจโรยหน้ากุ้ง เนื้อสมัน ปลาสมัน ผักชี หอมหั่นฝอย แล้วแต่รสนิยมของท้องถิ่น แล้วตัดเป็นชิ้น ๆ แจกจ่ายกันรับประทาน
ประเภทและลักษณะ
ประเภทจะเป็นประเพณีและพิธีกรรม ลักษณะของขนมอาซูรอจะมีสีน้ำตาล สีนำเงินอัญชัน และสีดำและมีพื้นผิวด้านนอกที่ค่อนข้างขรุขระแต่ข้างในอร่อย
ความเชื่อที่เกี่ยวข้อง
เทศกาลดังกล่าวนี้เป็นเทศกาลอาซูรออ์ของชาวซีอะหฺที่ไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของอิหม่าม เช่น ชาวตุรกีเรียกขนมที่ทำในเทศกาลนี้ว่า Asure หรือพุดดิ้งของโนอาห์ ซึ่งจะประกอบด้วยธัญพืช ผลไม้และถั่ว ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นขนมที่ครอบครัวของโนอาร์ทำขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการที่พวกเขามาถึงภูเขาอารารัต ชาวตุรกีทำขนมนี้ในวันอาซูรออ์ เพื่อรำลึกถึงการสิ้นสุดของสงครามที่คันบาลา
วัสดุที่ใช้ มะพร้าว ต้องคั้นจนเป็นน้ำกะทิก่อน หัวมัน ข้าวโพด หัวปลี กล้วย ถั่ว เผือกมัน ฟักทอง มะละกอ หอม/กระเทียม ข่า ตะไคร้ ผักชี ยี่หร่า ข้าวสาร เนื้อสัตว์ น้ำตาลทราย เกลือ เครื่องเทศ
ขั้นตอน/วิธีทำ
1.เริ่มจากการเตรียมวัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้นำมาทำความสะอาด
2.จากนั้นก็ตั้งกระทะใบใหญ่ตั้งไฟมีไม้พายสำหรับคนขนมอาซูรอ หลังจากตั้งกระทะบนเตา ซึ่งกระทะทำด้วยถังน้ำมันเนื่องจากมีความกว้างและสูง สามารถให้ไฟได้อย่างเต็มที่
3.คั้นน้ำกะทิใส่ลงไป ตำหรือบดเครื่องแกงหยาบๆใส่ลงในน้ำกะทิ เมื่อกะทิเดือดแล้วใส่ข้าวสาร ต้องทำการกวนอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ข้าวสารจับตัว
4.เมื่อข้าวสารแตกตัวและเข้ากับน้ำแล้ว ก็ใส่วัตถุดิบอื่นๆ ตามไปด้วย อาทิ หัวมัน ข้าวโพด หัวปลี กล้วย ถั่ว เผือกมัน ฟักทอง เครื่องเทศ เครื่องชูรส ฯลฯ
5.คนด้วยไม้พายจนกระทั่งทุกอย่างเปื่อยยุ่ย กวนจนเป็นเนื้อเดียวกันเมื่อแห้งได้ที่แล้วก็ตัดใส่ถาดโรยด้วยหน้ากุ้ง เนื้อสัตว์ ปลา ผักชี หอมหั่นฝอยแล้วแต่รสนิยมของท้องถิ่น แล้วตัดเป็นชิ้นๆแจกจ่ายกันรับประทาน
6.สุมไฟให้แรงอยู่ตลอดเวลาและกวนอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อวัตถุดิบที่ใส่หลวมหรือละเลยจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ก็ชิมและแต่งรสชาติตามที่ต้องการ จากนั้นยกกระทงลงจากเตาเพื่อรอให้อาซูรอแข็งตัว เพื่อรับประทานต่อไป
ประโยชน์ของภูมิปัญญา
1.ใช้เป็นอาหารเหมาะกับการจัดงานต่างๆแต่ขนมอาซูรอจะนิยมทำในเดือนมูฮัรรอมทางศาสนาอิสลาม
2.เหมาะกับการจัดงานที่ใหญ่โต เพราะขนมอาซูรอจะทำแต่ละครั้งต้องอาศัยผู้คนมากๆ ทำครั้งเดียวแต่รับประทานกันหลายคน
3.จากการจัดกิจกรรมนี้(ขนมอาซูรอ)ทำให้ประชาชนในหมู่บ้านเกิดความสมัครสมานสามัคคีขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: